หัวข้อ   “ ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3-6 เดือนข้างหน้า
เศรษฐกิจไทยยังห่างไกลคำว่าฟื้นตัว เหตุจากปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 3 ใน 5 ไม่ทำงาน ได้แก่ การส่งออกสินค้า
(ดัชนีเท่ากับ 4.03) การลงทุนภาคเอกชน(ดัชนีเท่ากับ 9.02) การบริโภคภาคเอกชน(ดัชนีเท่ากับ 13.11)
 
 
 
ดีมาก (5)
ดี (4)
ปานกลาง (3)
พอใช้ (2)
แย่ (1)
 
 
                 กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์
เปิดเผยผลสำรวจความเห็น นักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 27 แห่ง จำนวน 63 คน เรื่อง
“ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3-6 เดือนข้างหน้า” โดยเก็บข้อมูล
ระหว่างวันที่ 3-14 กรกฎาคม 58 ที่ผ่านมา พบว่า
 
                  ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน
อยู่ที่ระดับ 28.94 (เต็ม 100) เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมาที่อยู่ในระดับ 24.03
ทั้งนี้การที่ค่าดัชนีอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ค่อนข้างมากสะท้อนให้เห็นถึง สถานะเศรษฐกิจ
ไทย ในปัจจุบันที่ยังอ่อนแอเป็นอย่างมาก
เมื่อวิเคราะห์ลงไปในแต่ละปัจจัยขับเคลื่อน
พบว่าปัจจัยที่ทำให้ค่าดัชนีอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50 ค่อนข้างมาก ได้แก่ การส่งออกสินค้า
(ดัชนีเท่ากับ 4.03) การลงทุนภาคเอกชน(ดัชนีเท่ากับ 9.02) และการบริโภค
ภาคเอกชน(ดัชนีเท่ากับ 13.11)
ขณะที่ปัจจัยด้านการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐยังคง
ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ไม่เต็มที่ เห็นได้จากค่าดัชนีที่อยู่ในระดับ 47.58 ซึ่งเป็นระดับที่
ต่ำกว่าระดับ 50 เช่นกัน ขณะที่การท่องเที่ยวจากต่างประเทศเป็นปัจจัยเดียวที่ทำงานได้ดี
โดยมีค่าดัชนีเท่ากับ 70.97 เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนและเป็นระดับที่สูงที่สุด
นับจากเดือนมกราคม 57
 
                  เมื่อมองออกไปในระยะ 3 เดือนข้างหน้า ค่าดัชนีอยู่ที่ 59.51 เพิ่มขึ้น จากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา (ค่าดัชนี
เท่ากับ 58.41) และเมื่อมองออกไปในระยะ 6 เดือน ข้างหน้าที่ค่าดัชนีอยู่ที่ 71.01 ลดลงอย่างต่อเนื่องนับจากเดือน
กรกฎาคม 57 ทั้งนี้ การที่ค่าดัชนียังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 สะท้อนให้เห็นว่านักเศรษฐศาสตร์ยังคง มีความเชื่อมั่นว่า
เศรษฐกิจในอีก 3-6 เดือนข้างหน้าจะยังคงปรับตัวดีขึ้นกว่าปัจจุบัน แต่การดีขึ้นดังกล่าวจะอยู่ในลักษณะ
ค่อยเป็นค่อยไปและเชื่องช้า
 
                  ด้านความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ในประเด็นวัฏจักรเศรษฐกิจว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงใดของ
วัฏจักร พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 65.1 เห็นว่าอยู่ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย (Recession) รองลงมาร้อยละ 14.3 เห็นว่าอยู่ในช่วง
เศรษฐกิจฟื้นตัว (Recovery) และร้อยละ 3.2 เห็นว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงตกต่ำ (Trough) และไม่มีนักเศรษฐศาสตร์
คนใดเลยที่เห็นว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงรุ่งเรือง (Peak) เมื่อแบ่งวัฏจักรออกเป็น 2 ฟาก คือ ฟากเศรษฐกิจขยายตัวจนถึงจุด
สูงสุด(ร้อยละ 14.3) และ ฟากเศรษฐกิจถดถอยจนถึงจุดต่ำสุด(ร้อยละ 68.3) แล้วเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งก่อนหน้า
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาจะพบว่า เศรษฐกิจปัจจุบันอยู่ในภาวะถดถอยหรือชะลอตัว
 
                  ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า
  (1) ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย 3 ใน 5 ไม่ทำงานซึ่งได้แก่ การส่งออก
      การลงทุนภาคเอกชน และการบริโภคภาคเอกชน
  (2) แม้เศรษฐกิจข้างหน้าจะดีขึ้นกว่าปัจจุบัน แต่การดีขึ้นดังกล่าวจะอยู่ในลักษณะ
      ค่อยเป็นค่อยไปและเชื่องช้า โดยปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ
      คือ การท่องเที่ยวจากต่างประเทศและการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ
  (3) นักเศรษฐศาสตร์มองเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วง “เศรษฐกิจถดถอย”
 
 
                  (โปรดพิจารณารายละเอียดของผลสำรวจดังต่อไปนี้)
 
            ภาพที่ 1 ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทย (จำแนกตามดัชนี)
 
 
 
             ตารางที่ 1 ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน

ปัจจัยขับเคลื่อน
เศรษฐกิจ
ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน
2556
2557
2558
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
1) การบริโภค
    ภาคเอกชน
21.31
17.80
11.02
6.72
24.26
23.81
18.31
6.45
13.11
2) การลงทุนภาค
    เอกชน
21.31
28.81
14.41
5.22
19.70
19.84
17.61
9.68
9.02
3) การใช้จ่ายและ
    การลงทุนภาครัฐ
43.33
45.61
16.38
6.62
27.21
42.62
38.03
38.71
47.58
4) การส่งออก
    สินค้า
13.11
13.56
15.25
23.88
19.12
12.70
7.75
7.26
4.03
5) การท่องเที่ยว
    จากต่างประเทศ
72.95
79.17
32.20
21.32
25.37
29.37
40.85
58.06
70.97
ดัชนีรวม
34.40
36.99
17.85
12.75
23.13
25.67
24.51
24.03
28.94
หมายเหตุ : ค่าดัชนีจะมีค่าอยู่ระหว่าง 0-100 โดย
  ค่าดัชนีเท่ากับ 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ใน
สถานะปกติ (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับ
เดิม/ไม่เปลี่ยนแปลง (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้าเทียบกับปัจจุบัน)
  ค่าดัชนีสูงกว่า 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ใน
สถานะแข็งแกร่ง (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ใน
ระดับ ดีขึ้น (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้าเทียบกับปัจจุบัน)
  ค่าดัชนีต่ำกว่า 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ใน
สถานะอ่อนแอ (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับ
แย่ลง (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้าเทียบกับปัจจุบัน)
 
 
             ตารางที่ 2 ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3 เดือนข้างหน้า
                            (เปรียบเทียบกับปัจจุบัน)

ปัจจัยขับเคลื่อน
เศรษฐกิจ
ดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจ
ในอีก 3 เดือนข้างหน้าเปรียบเทียบกับปัจจุบัน
2556
2557
2558
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
1) การบริโภค
    ภาคเอกชน
30.83
45.00
35.96
42.31
79.85
70.63
69.01
53.33
51.61
2) การลงทุนภาค
    เอกชน
31.90
51.69
28.18
37.12
84.62
73.02
66.90
54.03
54.03
3) การใช้จ่ายและ
    การลงทุนภาครัฐ
49.14
64.66
25.00
31.62
82.84
89.52
81.69
74.19
75.00
4) การส่งออก
    สินค้า
32.50
55.08
66.10
65.38
74.62
62.70
61.59
44.35
49.19
5) การท่องเที่ยว
    จากต่างประเทศ
63.11
79.17
42.98
60.29
81.82
84.68
72.54
66.13
67.74
ดัชนีรวม
41.50
59.12
39.65
47.35
80.75
76.11
70.35
58.41
59.51
 
 
             ตารางที่ 3 ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 6 เดือนข้างหน้า
                            (เปรียบเทียบกับปัจจุบัน)

ปัจจัยขับเคลื่อน
เศรษฐกิจ
ดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจ
ในอีก 6 เดือนข้างหน้าเปรียบเทียบกับปัจจุบัน
2556
2557
2558
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
1) การบริโภค
    ภาคเอกชน
50.00
61.21
53.70
64.84
90.30
86.21
81.62
72.50
69.67
2) การลงทุนภาค
    เอกชน
45.54
70.18
50.93
53.97
92.31
87.29
81.62
75.00
67.21
3) การใช้จ่ายและ
    การลงทุนภาครัฐ
60.71
79.09
40.74
48.48
93.75
95.16
86.96
84.68
86.07
4) การส่งออก
    สินค้า
47.27
67.80
77.68
76.15
83.59
76.79
76.92
59.02
58.33
5) การท่องเที่ยว
    จากต่างประเทศ
72.81
80.17
57.14
73.13
90.91
88.14
77.86
73.77
73.77
ดัชนีรวม
55.27
71.69
56.07
63.32
90.17
86.72
80.99
72.99
71.01
 
 
             ตารางที่ 4 วัฏจักรเศรษฐกิจ

วัฏจักรเศรษฐกิจ
2556
2557
2558
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
เศรษฐกิจขยายตัว
(Expansion / Recovery)
13.0
18.0
10.0
1.4
44.9
35.9
43.1
20.6
14.3
เศรษฐกิจรุ่งเรือง (Peak)
8.0
2.0
2.0
1.4
1.4
1.6
1.4
1.6
0.0
เศรษฐกิจถดถอย
(Contraction / Recession)
63.0
63.0
67.0
81.2
33.3
39.1
33.3
52.4
65.1
เศรษฐกิจตกต่ำ (Trough)
3.0
5.0
5.0
7.2
11.6
14.1
11.1
14.3
3.2
ไม่ตอบ/ไม่แน่ใจ
13.0
12.0
16.0
8.8
8.8
9.4
11.1
11.1
17.4
 
 

** หมายเหตุ:  รายงานผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ฉบับนี้   เป็นการสำรวจความเห็นส่วนตัวของ
                     นักเศรษฐศาสตร์ซึ่งมิได้สื่อถึงแนวนโยบายขององค์กรที่นักเศรษฐศาสตร์สังกัดอยู่แต่อย่างใด

 
 
รายละเอียดในการสำรวจ
วัตถุประสงค์ในการสำรวจ:
                  เพื่อสะท้อนความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะทางเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันและทิศทางในอนาคตอีก
3 และ 6 เดือนข้างหน้า รวมถึงวัฏจักรเศรษฐกิจ ให้กับประชาชนและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนรับทราบเพื่อนำไปใช้
ประกอบการวางแผนนโยบายเศรษฐกิจและธุรกิจต่อไป
 
กลุ่มตัวอย่าง:

                  เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่สำเร็จการศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในสาขาเศรษฐศาสตร์
(กรณีสำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์เฉพาะปริญญาตรี หรือปริญญาโท หรือปริญญาเอก อย่างใดอย่างหนึ่ง
จะต้องมีประสบการณ์ในการทำงานด้านวิเคราะห์/วิจัย/หรืองานที่เกี่ยวข้องที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถด้านเศรษฐศาสตร์
อย่างน้อย 5 ปีจนถึงปัจจุบัน)
ที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์ วิจัยเศรษฐกิจระดับชั้นนำของประเทศ
จำนวน 27 แห่ง ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร สำนักดัชนีเศรษฐกิจ
การค้ากระทรวงพาณิชย์ มูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(TDRI)
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์
และตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย
ธนาคารธนชาต ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทหารไทย บริษัทหลักทรัพย์ภัทร บริษัทหลักทรัพย์
โนมูระ พัฒนสิน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย บริษัททิพยประกันชีวิต คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร สำนักวิชาเศรษฐศาสตร์และนโยบายสาธารณะมหาวิทยาลัย
ศรีนครินทร์วิโรฒ คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง และคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

 
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
                  การสำรวจนี้เป็นการวิจัยโดยการเลือกตัวอย่างประชากรโดยไม่อาศัยหลักความน่าจะเป็น (Non-probability
sampling) แต่ละหน่วยตัวอย่างที่จะได้รับการเลือก จึงเป็นการเลือกตัวอย่างประชากรแบบเจาะจง (Purposive sampling)
และดำเนินการรวบรวมข้อมูลโดยการส่งแบบสอบถามออนไลน์ไปยังนักเศรษฐศาสตร์ในหน่วยงานที่กำหนดภายในระยะเวลา
ที่กำหนด
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล: 3 - 14 กรกฎาคม 2558
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 22 กรกฎาคม 2558
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
ประเภทของหน่วยงานที่กลุ่มตัวอย่างทำงานอยู่:    
             หน่วยงานภาครัฐ
34
54.0
             หน่วยงานภาคเอกชน
22
34.9
             สถาบันการศึกษา
7
11.1
รวม
63
100.0
เพศ:    
             ชาย
39
61.9
             หญิง
24
38.1
รวม
63
100.0
อายุ:
 
 
             26 – 35 ปี
13
20.6
             36 – 45 ปี
28
44.5
             46 ปีขึ้นไป
22
34.9
รวม
63
100.0
การศึกษา:
 
 
             ปริญญาตรี
3
4.7
             ปริญญาโท
49
77.8
             ปริญญาเอก
11
17.5
รวม
63
100.0
ประสบการณ์ทำงาน:
 
 
             1 - 5 ปี
7
11.1
             6 - 10 ปี
13
20.6
             11 - 15 ปี
15
23.8
             16 - 20 ปี
9
14.3
             ตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป
19
30.2
รวม
63
100.0
 
ติดตามกรุงเทพโพลล์ผ่าน twitter ได้ที่  twitter bangkokpoll
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)
Email: bangkokpoll@bu.ac.th      โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1770-1776